19/6/2550
22.39 น.
"บทส่งท้าย จุดจบแห่งการเริ่มต้น"
แสงตะเกียงถูกจุดสว่างไสวขึ้นอีกครั้ง
นิทานอันแสนสนุกได้ดำเนินมาถึงที่ปลายทาง
เรื่องราวอันแสนวิเศษของเด็กหนุ่มผู้เปล่งประกาย
ที่ไม่มีกวีคนใดจะได้ขับกล่อมเป็นบทกลอน
หรือกระทั่งนักประพันธ์ท่านไหนจะร้อยเรียง
เรื่องราวที่ไม่เคยถูกบันทึกในตำนานบทใด หรือบันทึกเล่มไหน
จากปากของวณิพกน้อยที่ถ่ายทอดให้ได้รับฟัง
แลกกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม จนกว่าค่ำคืนนี้จะพ้นผ่าน
และสิ่งต่างๆจะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา
อันจะได้กล่าวบทไปในคืนนี้
คงจะทำให้ผู้ฟังทุกท่านได้รับความเพลิดเพลินอิ่มเอมใจ
ดั่งจิ๊กซอว์ที่ขาดหายถูกนำมารวมกันให้ปรากฏเป็นภาพ
ดั่งฟันเฟืองที่สำคัญได้ถูกสับเปลี่ยน
กงล้อแห่งโชคชะตาก็เริ่มหมุนอีกครั้ง
ถนนหนทางที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนก็ว่างเปล่า
เสียงบทเพลงจากห้องดนตรีก็เงียบหาย
เพื่อนฝูงหลายคนที่เคยอยู่ด้วยกันก็ต้องแยกย้าย
ช่วงเวลาแห่งความเงียบงันเข้ามาปกคลุม
ความสับสนวุ่นวายของผู้คนไม่ได้ทำให้ความเงียบนั้นหายไปได้
เงียบจนกระทั้งแว่วเสียงลมหายใจ
เงียบจนกระทั่งได้ยินแต่เสียงใบไม้ไหว
เงียบจนกระทั้งรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจ
มันนานแสนนาน จนกระทั้งบทเพลงที่คุ้นเคยลอยมากระทบโสตประสาทอีกครั้ง
พลันก็นึกถึงบรรยากาศริมชายหาดที่เหมือนมาเปิดสวิชต์เสียง
ให้ความเงียบหายไปอีกครั้ง รอยยิ้มกลับคืนมาที่มุมปาก
แววตาเย็นชาเริ่มส่องประกาย ความฝันที่จางหายหวนคืน
และแล้วก็ถูกมนตราสะกดให้เหมือนกับสิ้นสติไป
จนกระทั่งสติคืนมาอีกครั้งก็พบว่าได้มายืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย
ท่ามกลางบทเพลงที่ฟังคุ้นหู และภาพผู้คนบนเวทีที่เคยชิน
โชคชะตาได้มาบรรจบกันอีกครั้งแล้ว
เหมือนกับเพียงแค่กระพริบตา
จุดเริ่มต้นของบทเพลงบทใหม่ในงานคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก
ณ ที่แห่งนี้ ได้ปลุกอดีตที่แสนหวานให้ตื่นขึ้น
และนำพวกเรามาพบกันอีกครั้ง
เรื่องราวของผมก็คงจบลงที่ตรงนี้
สายลมหนาวที่พัดมาแล้วเมื่อถึงเวลาก็ต้องพัดผ่านไป
หากแต่ว่าเรื่องราวทุกๆอย่างก็คงต้องดำเนินไปตามวิถีของมัน
ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม หากคุณได้มองไปรอบๆตัว
ในขณะที่เสียงเพลงของพวกเค้ากำลังขับกล่อม
อาจได้เห็นรอยยิ้มเล็กๆจากใครคนหนึ่ง
และเค้าก็จะคงอยู่ตรงนั้นตลอดไป
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ได้ใช้ความพยายามติดตามเรื่องราวเล็กๆน้อยๆนี้มาจนจบ
ขอบคุณทุกๆคนที่มีส่วนร่วมในบันทึกเล็กๆนี้
แล้วเราจะได้พบกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น