20/4/2550
23.37 น.
"ก็เป็นซะอย่างเงี้ยะ"
ทำไม หลอดไฟนีออนก็ให้แสงสว่างเหมือนกัน แต่ คนกลับรำพันถึงดวงดาว
เงาตัวเราในกระจกที่เราเองกำลังมองอยู่ มันกำลังคิดอะไรกันนะ
ผู้หญิงคนนั้น ที่เราเกิดหลงสเน่ห์ ถ้าเข้าไปบอกเค้าว่า รักผมหน่อยสิ เธอจะทำหน้ายังไง
เวลาที่โดนยุงกัน มันก็ต้องคันเป็นธรรมดา
คันก็เกาสิ จะมาบ่นให้มันได้อะไร
รู้แล้วล่ะเฟ้ย ก็เพราะว่าเอาปากเกาไม่หายคันไง ก็เลยได้แต่ใช้มันบ่น
รายการทีวีก็ยังมีแต่ดาราหน้าตาดีๆ อิจฉาว่ะ
แต่ก็ดีแล้ว ถ้าเอาตัวเราไปออกทีวีคนคงไปฟังวิทยุกันหมดโลก
ห้องแอร์นี่มันเย็นดีนะ ขโมย ฤดูหนาวมาชัดๆ ข้างนอกถึงได้ร้อนไงล่ะ
คิดอะไรไม่ออกแต่ก็ยังดื้อดึง
ทำไมถึงดื้อได้ขนาดนี้นะเนี่ย
หมดเวลา เรื่องราว ของวันที่สับสน
อยากบอกแค่ว่าอย่าไปได้มั้ย มองมาที่ผมหน่อย
แต่ก็มองไม่ได้เพราะมันเป็นอินเตอร์เน็ต
หิวจัง ไปหาอะไรกินดีกว่า ...
5/5/2550
9.25 น.
"พิเศษ"
หลังจากหมดมุขไม่รู้จะเขียนบันทึกว่ากระไร แต่ก็ให้อดใจไม่ได้
ต้องหาเรื่องอะไรซักเรื่องมาเขียนซะหน่อย นั่งเขียนไปหลายเรื่อง
แต่ก็ไม่ถูกใจซักเรื่อง มองซ้ายมองขวา ดูรอบๆตัว
หาว่ามีอะไรที่น่าสนุกเอามาเขียนเล่าให้ฟังรึป่าว แต่ก็ไม่เจอไอเดีย
ก็เลยท่องโลกไซเบอร์ไปเรื่อยๆ ไปหาไอเดียต่างๆ
ไปเจอกลอนอยู่ 1 บท เกี่ยวกับดอกไม้ชนิดหนึ่ง ชื่อว่า มหาหงส์
หรือ อีกชื่อที่ฟังแล้วช่างแปลกหูก็คือ สเลเต
ก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อ เอ็มเอสเอ็นซะเลย แต่ก็ด้วยพื้นที่อันจำกัด
ทำให้ลงได้เฉพาะวรรคที่ชอบเท่านั้น
ดังงั้นก็เอามาลงในนี้แล้วกัน
สเลเต โดย คุณม้าก้านกล้วย จาก www.thaipoem.com
รอบรอบรั้ว เรียงราย ขจายกลิ่น
ดอกบางบิ่น บอบเบา เจ้าขาวสวย
ชันช่อชู ชวนชม สมสำรวย
ลางสลวย แฝงเสน่ห์ ให้เหหัน
สเลเต ชาติเกิดก้ำ เจ้าต่ำต้อย
แต่มิด้อย ค่าควร สวนสวรรค์
โดดเด่นกว่า มาลา นานา พรรณ
ขาวเจ้านั้น ขาวสะอาด ปราศมลทิน
หอมมิใช่ แปรงเปล่ง เก่งเกินกว่า
ผองผกา ทั้งมวล ชวนถวิล
หอมแค่หอม ปรายโปรย โรยระริน
เพียงได้กลิ่น สุนทรี ดังวิมาน
สัมผัสนั้น พลันวาบ กำซาบซึ้ง
เมื่อครั้งหนึ่ง ในห้วงไหว หัวใจหวาน
สเลเต ข้างรั้ว ยั่วเบิกบาน
พร้อมตำนาน รักจริงใจ เธอให้ฉัน
สเลเต โรยกลิ่นเตือน เหมือนสักขี
ดอกเจ้าสี ขาวย้ำ ให้จำมั่น
วันที่มอบ หัวใจ ให้ต่อกัน
วันที่ฉัน เข้าใจเรา เข้าใจรัก
แล้วคราใด ที่หัวใจ สงสัยเธอ
อาจจะเผลอ ยามห่างไป ให้ห่วงหนัก
สเลเต เจ้าจะบาน พยานรัก
ให้ตระหนัก ว่าสองเรา จะเข้าใจ
หลังจากที่บทเพลงแรกได้ถือกำเนิดขึ้น บังเอิญในช่วงนั้น
คลื่นวิทยุซันไชน์เรดิโอ พัทยา ได้จัดโครงการประกวดดนตรี
ซันไชน์มิวสิค อวอร์ด ขึ้นโดยให้ผู้ที่สนใจส่งเพลงเดโมเข้าประกวด
ซึ่งพวกเค้าก็ย่อมไม่พลาดแน่ๆ การอัดเสียงลงเทปจึงเริ่มต้นขึ้น
อย่างทุลักทุเล เนื่องจากตอนนั้น ห้องซ้อมดนตรีที่ใช้อัดเสียงยังมีน้อย
แล้วก็ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ห้องที่ใช้อัดเสียงได้ในมหาลัย
ก็ไม่รู้จะเข้าไปติดต่อกับเค้าได้อย่างไร จนในที่สุดก็ไปเจอห้องซ้อม
ที่หนองมน ซึ่งสามารถอัดเสียงได้ พวกเค้าก็เลยตัดสินใจไปทำเทป
กันที่นั่น อัดกันไปร้อยกว่ารอบ แต่ก็ตัดสินใจเอารอบแรกส่งไปที่คลื่น
ก็นะไม่รู้จะอัดกันให้เยอะแยะไปทำไม จนกระทั่งได้เดินทางไปพัทยา
เพื่อไปส่งเทปที่คลื่นซันไชน์ แล้วก็รอว่าจะมีโอกาศได้รับคัดเลือกมั้ย
ซึ่งถ้าวงไหนได้รับคัดเลือกพี่ที่สถานีก็จะเปิดเพลงนี่ออกอากาศด้วย
ซึ่งวงอีกวงนึงที่เล่นได้มันส์สุดๆ และเป็นเพื่อนกันกับเรา
ได้รับคัดเลือกและได้เปิดออกอากาศไปแล้วสร้างความอิจฉา
ให้เป็นอย่างยิ่ง จนแบบว่าเวลาว่างตอนไหนก็จะเปิดวิทยุฟังตลอด
แล้วในที่สุด บทเพลงปล่อยวาง ก็ได้ออกอากาศทางวิทยุเป็นครั้งแรก
พวกเค้าก็คงจะรู้สึกแปลกๆ ปนๆกับดีใจเหมือนกันที่เพลงบทแรกนี้
ได้ออกอากาศให้กับคนหลายๆคนได้รับฟัง เหมือนกับเดินเข้าไป
ใกล้กับความฝันอีกหน่อย ที่สำคัญไม่ได้เปิดแค่ครั้งเดียวครับ
เปิดบ่อยมากเสียด้วยคิดว่าอาทิตย์ละสองครั้งเห็นจะได้(บ่อยจริงๆนะ)
ต่อมาทางสถานีเค้าก็ติดต่อมาบอกเรื่องเงื่อนไขกติกาและวันที่แข่ง
แต่วันแข่งให้เล่น 2 เพลง ก็เป็นโจทย์ที่ต้องไขกันต่อว่าจะเล่นอะไร
แน่นอน 1 ในนั้นก็คือ ปล่อยวาง
______________
โปรดติดตามตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น