Facebook

"This is a playground world"

กว่าจะมาเป็น Playground ตอนที่ 19

5/3/2550

22.55 น.

"เกาะมหัศจรรย์"

นั่งอ่านสเปซของน้อง purewing แล้วก็อดอิจฉาไม่ได้
การได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่คิดดีๆ รู้สึกดีๆ
ไปแค่นั่งเล่นนอนเล่นก็มีความสุขมากๆ
แต่ทุกครั้งที่ผมได้ไปเที่ยวในที่ที่แสนวิเศษ
ได้กินอาหารอร่อย หรือแปลกไปจากเดิม ก็ไม่ลืมที่จะนึกถึงพ่อกับแม่
นึกแค่ว่าถ้าได้พาพ่อกับแม่มาเที่ยวได้มากินอาหารแบบนี้จะดีแค่ไหน

ครั้งนึงได้มีโอกาศไปเที่ยวกับเพลย์กราวด์
และเพื่อนๆอีกจำนวนหนึ่ง ตอนนั้นเป็นวันหลังจากสอบเสร็จ
ซึ่งเราก็นัดแนะกันไว้ก่อนหน้านั้นนานแล้วว่าจะไป
ก็เป็นอันว่าเวลาได้ล่วงเลยมาจนถึงวันก่อนที่จะออกเดินทาง
พวกเราก็ไปค้างกันที่บ้านรัญจวน(เป็นชื่อบ้านที่เพลย์กราวด์อยู่)
ก็เตรียมตัวกันเสร็จตั้งแต่กลางคืนพอมาถึงเวลา
ซักประมาณตี 4 เอ..ไม่แน่ใจ ก็ได้เวลาเดินทางโดยรถทหาร
จุดหมายปลายทางของเราก็คือ เกาะกูด
อากาศคืนนั้นก็ค่อนข้างเย็นทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสบายๆ
รถทหารที่เราไปเป็นรถ 6 ล้อ ข้างหลังก็บรรทุกสัมภาระต่างๆ
แล้วเราก็นั่งไปกับสัมภาระเหมือนพวกเขมรอพยพก็ไม่ปาน
แต่มองอีกทีก็เป็นรถขนหมู ก็อาจใช่
ยังจำได้ว่าพี่เคียงมอ กับ พี่เก้ง เล่นมุข เล่าเรื่องที่เชื่อมโยงกัน
ตลกมากไม่รู้เอาสมองส่วนไหนมาคิด
อย่างเรื่องของแตงกวา ที่ไม่รู้ว่าทำไมเรียกแตงกวา
เรื่องมันมีอยู่ว่า มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมากๆ
เวลาไปทำสวนทำไร่ก็ไปด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกันรักกันมาก
จนวันนึงกำลังไปทำสวนผักชนิดหนึ่ง ชายหนุ่มก็ถามขึ้นว่า
เราควรจะอยู่ก่อนแต่งนะถึงจะดี
หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็โกรธว่าทำไมรักกันพ่อแม่ก็ไม่ได้กีดกัน
แล้วจะต้องอยู่ก่อนแต่งด้วย แบบนี้ยอมไม่ได้ก็เลยบอกชายหนุ่มว่า
เราแต่งงานกันก่อนดีกว่านะจะได้เป็นไปตามประเพณี
ชายหนุ่มก็ยังยืนกรานว่าอยู่ก่อนแต่งสิดีกว่า
แต่งก่อน อยู่ก่อน แต่งก่อน อยู่ก่อน เถียงกันไปเถียงกันมา
ทำให้หญิงสาวเริ่มหงุดหงิดคว้าอะไรได้ก็เอามาปาใส่ชายหนุ่ม
ทะเลาะกันยกใหญ่จนเพื่อนบ้านที่ทำงานอยู่แถวนั้นมาเห็น
แล้วก็โดนลูกหลงด้วยผลไม้ประหลาดชนิดหนึ่งลูกสีแดง
เพื่อนบ้านก็ด้วยอารมณ์เสีย ก็เลยตะโกนไปว่า มะเกี่ยวด้วยนะ
คู่หนุ่มสาวได้ยินดังนั้นก็ทำท่างงแล้วก็มองดูในมือ
แล้วก็ร้อง อ๋อ ทันทีแล้วก็คุยกันว่า อยากรู้มาตั้งนานแล้ว
ว่าเจ้าลูกแดงๆเนี่ยคือลูกอะไร ที่แท้เค้าเรียกว่า ลูก มะเกี่ยวด้วย
มะเกี่ยวด้วย มะเกี่ยวเด็ด มะเกี่ยวเดส
เรียกเพี้ยนจนมาเป็น มะเขือเทศในปัจจุบัน จบ..(แล้วไหนล่ะแตงกวา)
555 ประมาณนี้แหละคับ เรียกว่าสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้
ไปจนตลอดทาง
อ่า...ว่าจะเล่าเรื่องไปเที่ยวเกาะกูดซะหน่อยไหงกลายเป็นมะเขือเทศ

อิอิ ก็วันนี้เอาไว้เท่านี้คับ ไว้มาต่อเรื่องเกาะมหัศจรรย์ กันต่อ

10/3/2550

19.10 น.

"เกาะมหัศจรรย์ 2"

เดือนนี้มีนาคม เป็นเดือนที่รู้สึกว่า ทำอะไรก็ติดๆขัดๆไปซะหมด
ตั้งใจทำอะไรๆหลายๆอย่าง แต่ก็เป็นอันจบไม่ลง
รู้สึกพลังไม่ค่อยจะพอเพียงมันทำไมลดลงๆไปเรื่อยๆ
รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นผู้ชายตัวเล็กๆไปซะแล้ว
ตอนนี้ก็คงต้องทำสิ่งที่จำเป็นซะก่อน

ค่ำคืนยังคงผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทริปท่องเที่ยวของเรา
เริ่มจะเงียบลงเรื่อยๆ ได้ยินเพียงเสียงพูดคุยกันเบาๆ
เสียงลมที่พัดมาปะทะตัวรถ และอาจได้ยินเสียงกรนของใครซักคน
ดังอยู่เป็นระยะ พอให้รำคาญเล่น
และแล้วผมก็ยอมแพ้ต่อความอ่อนเพลียผลอยหลับไป
นานเท่าไรไม่ทราบได้แต่แล้วก็ต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้น
ปกติผมเป็นคนที่จะรู้สึกตัวเร็วมากหากว่ามีอะไรที่ผิดปกติ
แต่วันนั้นหลับสนิท แบบว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย
รถหกล้อของเราพาเราเข้ามาถึงท่าเรือแห่งหนึ่งในจังหวัดตราด
มองออกไปที่ท้องน้ำแล้วก็ให้สงสัยว่าเราจะนั่งอะไรไปเกาะกันล่ะ
เพราะที่เห็นก็มีแค่เรือตรวจการของทหารหรือไม่ก็ตำรวจจอดอยู่
พวกเราค่อยๆทยอยลงจากเจ้ารถหกล้อ
ด้วยเสื้อผ้าหน้าผม ทรง ศตวรรษที่ 15 ฟูๆพองๆ ได้อารมณ์จริงๆ
แล้วเราก็ขนสัมภาระต่างๆของพวกเรามารวมไว้ที่จุดหนึ่ง
พี่ๆทหารก็ขนของต่างๆลงมาจากรถอย่างคล่องแคล่ว
ผมมองออกไปยังท้องน้ำที่แสนไกลสุดลูกหูลูกตา
ทะเลสีน้ำเงิน ตัดกับท้องฟ้าสีคราม เจือไว้ด้วย แสงอาทิตย์
ระยิบระยับ ที่เหมือนกับว่ากำลังเล่นสนุกกับเกลียวคลื่น
มองซ้ายมองขวาก็เริ่มสงสัยว่า แล้วเรือลำไหนน้าที่เราจะได้
อาศัยไปยังเกาะสวาทหาดสรรค์ที่เคยได้ยินแต่ชื่อ
เพราะไม่ยักกะมีเรือเลยนอกจากเรื่อของยามฝั่งลำขนาดกลาง
ผู้นำทริปของเราคุยกับพี่ทีมทหารพักใหญ่ ก่อนจะเดินมาบอกเรา
ให้ขนสัมภาระขึ้นเรือ
ผมถามไปด้วยความไม่รู้จริงๆว่าไหนล่ะเรือ แล้วก็ต้องอึ้ง
ก็ลำนั้นล่ะคับ เรือยามฝั่งนั่นล่ะ โอ้โห นั่นล่ะคับที่ไม่เหมือนใคร
ทริปนี้ไม่ธรรมดาตั้งแต่รถขนหมูซะแล้วนะคับ
มีอะไรให้ประหลาดใจอยู่เรื่อยๆ ว่าแล้วก็ไม่รอช้ารีบขนของลงเรือ
และเริ่มออกเดินทางไปในท้องทะเลอ่าวไทย

วาดภาพตัวเองเหมือนกับโจรสลัดที่เตรียมตัวออกทะเลไปล่าสมบัติ
และแล้วเรือโจรสลัดของเราก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากฝั่ง
ลมทะเลยามเช้าพัดสัมผัสใบหน้าที่ยังแฝงไว้ด้วยร่องรอยแห่งค่ำคืน
อาจจะบวกกับคราบน้ำลาย และก้อนขี้ตาเล็กน้อย พอให้ดูน่ารักสมวัย
สัมภาระสำคัญที่เหล่าเพลย์กราวด์จะขาดไม่ได้ก็คือ กีต้าร์
ซึ่งถ้าขาดไปล่ะก็ทริปนี้คงไม่สมบูรณ์แน่นอน
_____________________
โปรดติดตามตอนต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น