Facebook

"This is a playground world"

กว่าจะมาเป็น Playground ตอนที่ 2

29/10/2549

20.17 น.

"ชมรม กับ วันเปิดโลกกิจกรรม"

เย็นวันอาทิตย์ที่แสนวุ่นวาย
นั่งฟังเพลงเพราะๆ ในห้องที่มีแอร์เย็นฉ่ำ
ช่างเป็นวันหยุดที่ดีจริงๆ
แต่พูดให้ถูกแล้วพึ่งได้นั่งพักแบบนี้เมื่อตอน 6 โมง
หลายๆคนคงจะไม่อยากให้มันผ่านไป
เพราะเช้าวันใหม่จะเป็นวันที่เริ่มต้นความเหน็ดเหนื่อยอีกครั้ง...

เมื่อเข้ามาเป็นน้องปี 1 ของที่นี่สมัยนั้น
เกือบทุกคนจะต้องเข้าร่วมกิจรรมรับน้องแต่ละคณะ
ซึ่งโดยส่วนตัวของผมได้อะไรกับกิจกรรมนี้เยอะพอสมควร
และหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมรับน้องนี้แล้ว
ทางมหาลัยก็จะจัดให้มี เทศกาล "วันเปิดโลกกิจกรรม"

สมัยเด็กผมเคยอ่านการ์ตูนที่มีการไล่ล่ารุ่นน้องเพื่อให้เข้าชมรม
ซึ่งผมก็คิดว่าคงเป็นเรื่องไม่จริงที่นักเขียนชาวญี่ปุ่นใส่มา
เพื่อให้เกิดความสนุกสนานเพิ่มขึ้น แต่วันนนี้ได้มาเห็นกับตา
ถึงกับอึ้งไปเลยเหมือนกัน

งานเปิดโลกกิจกรรมนี้จัดอยู่ที่อาคารกิจกรรมรูปร่างพิลึก
ตัวอาคาร เป็นอาคารสร้างจากปูน 2 ชั้น เป็นแนวยาว
ไปตามแนวความยาวของมหาลัย ที่สำคัญคือ
อาคารนี้จะมี สนามหญ้า รูปวงกลมอยู่ตรงกลางพอดิบพอดี
ซึ่งผมและนิสิตคนอื่นๆเรียกมันว่า "ลานวงกลม"
แต่ละชมรมก็จะจัดซุ้มเพื่อรอรับสมัครน้องๆให้เข้าชมรม
พี่สาวหน้าตาดีมีฐานะก็จะยืนเหมือนพริตตี้คอยอยู่ที่ซุ้ม
พี่บางคนก็เดินถือใบสมัครเดินรับสมัครกันเลย(ส่วนใหญ่ผู้ชาย)
มีทั้งสมัครฟรี มีทั้งเสียค่าสมัคร
บางชมรมแถม ข้าวสาร น้ำปลา ก็ว่าไป(อิอิ ล้อเล่นคับ)

ผมเองก็มีชมรมที่อยากจะเข้าในดวงใจอยู่แล้วแต่ที่เดินดูไปทั่ว
ก็เพราะมันเป็นช่วงที่เหร่หญิงได้ดีที่สุดวันหนึ่งเลยทีเดียว
สาวๆทุกคนที่เป็นน้องใหม่จะมารวมตัวกัน
พี่สาวหน้าตาดีก็จะมาประจำซุ้ม (โอ..สวรรค์จริงๆ)
เดินดู(สาวๆ) จนปวดตา ปวดคอ กันแล้วผมก็มุ่งตรงไปยัง
ชมรมดนตรีสากลเพื่อสมัครสมาชิกทันที

แทบไม่เชื่อสายตา พี่สาวสวย เซ็กซี่ หลายคน
ยืนรอรับสมัครอยู่ที่ชมรมนี้ ไม่รอช้าผมเข้าไปสมัครทันที
โดยหารู้ไม่ว่าชะตากรรมในอนาคตมันช่างเล่นตลกเสียจริงๆ
ผ่านวันงานมาไม่นาน เราเหล่าสมาชิกก็จะต้องไปชมรมครั้งแรก
ผมก็ยังฝันถึงเหล่านางฟ้าของผมกับชมรมดนตรี
แต่แล้วความฝันก็พังทลายสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมมันไม่ใช่
ผมพยายามขยี้ตา แต่ก็ไม่เป็นผล
ภาพชายหนุ่มหน้าตาท่าทางป่าเถื่อนยืนรอเราอยู่ที่ชมรม
ข้างในชมรมมีเสียงกรีดร้องเหมือนกับคนโดนทรมาน
คลอไปกับเสียงดนตรีฮาร์ดคอร์
ไม่นะ นี่ชีวิตวัยหนุ่มของผมจะจบลงที่นี่หรือไง

แต่มันก็เป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่ผมได้มาเจอกับสมาชิกวงเพลย์กราวน์


30/10/2549

21.09 น.

"ม้าหินอ่อน"

เพลย์กราวด์ชุดใหม่ออกมาแล้วยังไม่ได้ซื้อเลย
ที่ที่ผมอยู่มันอาจจะบ้านนอกไปซะหน่อย
แต่มันห่างจากกรุงเทพฯ แค่เดินทาง ชั่วโมงเองนะ
จำได้ว่าชุดที่แล้วค้นหาไปทั่วเมืองแต่ก็ไม่มีขายเลยซักที่
ทำให้คิดถึงคำพูดหนึ่งที่ว่า ใกล้กันเกินไปจนมองไม่เห็น

หน้าชมรมดนตรีสากล
จะมีต้นไม้ไม่ใหญ่นักและที่นั่นก็จะมีโต๊ะม้าหินอ่อน
ตามตำนานเล่าว่าพี่ๆรุ่นก่อนๆไปแอบขโมยมาจากที่อื่น
เพื่อให้หน้าชมรมมีที่นั่งสาวๆจะได้มานั่งฟังเพลงกันสบายขึ้น
ในความเป็นจริงต่อให้เป็นผู้ชายแมนทั้งแท่ง
มานั่งตรงนี้ยังต้องคิดดูก่อน
บรรยากาศมันอึมครึมน่ากลัวยิ่งนัก(เค้าว่ากันแบบนั้นนะ)
แต่ต้องบอกว่าที่ตรงนี้ฮวงจุ้ยดีสุดๆ
ข้างหลังมีเพลงฟัง ข้างหน้าเป็นทางเดินอีกฝั่งเป็นสนามบาส
แล้วทางเดินนี้ก็เป็นทางเดินหลักที่จะเดินไปเซเว่นใน ม.
ก็คงเดากันได้นะคับผมก็คงไม่พ้นเรื่องเหร่สาวอีกเช่นเคย
ตกเย็นหลังเลิกเรียนทุกวันผมก็จะมานั่งที่ม้าหินอ่อนนี้
สมาชิกชมรมคนอื่นๆก็มีแวะเวียนมาบ้าง
อาศัยจังหวะนั่งรอต่อห้องซ้อมเป็นที่สนทนา
วงเพลย์กราวนด์เองก็ใช้ที่แห่งนี้เป็นที่พูดคุยสัพเพเหระกัน
ซึ่งมันก็ถือว่าโอเคเลยสำหรับสภากาแฟหน้าชมรมแห่งนี้

มีอยู่ครั้งหนึ่งผมกับพี่เก้งเพลย์กราวด์
เล่นเช็คเรทติ้งกัน เราพนันกันว่าสาวๆที่เดินผ่านหน้าม้าหินอ่อนนี้
จะมีคนมองมาที่ผมหรือพี่เก้งมากกว่ากัน
ผลมักจะออกมาซ้ำเดิมทุกครั้งคือ มีแต่คนมองน๊อต กับ ติ๊ก T_T
(สรุปพี่เก้งกับผมเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้นเลย)


--------------------------
โปรดติดตามตอนต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น