24/11/2549
20.52 น.
"ส่วนที่ขาดและส่วนที่เกิน"
เข้ามาเวบบอร์ดไม่ได้หลายวัน
พลาดการบันทึกไปก็หลายเรื่องราว
ปัญหาในชีวิต หลายๆเรื่องกำลังสุมเข้ามาไม่ขาดสาย
ขณะที่นิ้วสัมผัสกับแป้นพิมพ์ ในใจก็คิดสารพัดเรื่อง
วันศุกร์สุดท้ายของเดือน พฤศจิกายน กำลังจะผ่านพ้นไป
วันเวลาแห่งการเปิดเทอมและวันเวลาของการรับน้อง ได้ผ่านเข้ามาในชีวิต
พี่เก้งและพี่ติ๊กกำลังสนุกสนานเบิกบานกับกิจกรรมรับน้อง
แต่ก็เป็นบทเรียนอย่างดี เพราะปีนี้เองที่ได้สอนบทเรียนที่สำคัญให้พวกเค้า
หลังจากกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ จบลง
ก็จะมีพิธี รับขวัญน้อง
(คณะของผม มีกิจกรรมต่างๆตลอดทั้งปี จนบางครั้ง ผู้ปกครองที่บ้านก็บ่นให้ได้ยินว่า
กิจกรรมอะไรเป็นเดือนเป็นปีขนาดนี้ หรือ พูดเป็นแกมประชดว่า มหาลัยที่นี่ดีเนอะเรียนกันจนตี 2)
20.52 น.
"ส่วนที่ขาดและส่วนที่เกิน"
เข้ามาเวบบอร์ดไม่ได้หลายวัน
พลาดการบันทึกไปก็หลายเรื่องราว
ปัญหาในชีวิต หลายๆเรื่องกำลังสุมเข้ามาไม่ขาดสาย
ขณะที่นิ้วสัมผัสกับแป้นพิมพ์ ในใจก็คิดสารพัดเรื่อง
วันศุกร์สุดท้ายของเดือน พฤศจิกายน กำลังจะผ่านพ้นไป
วันเวลาแห่งการเปิดเทอมและวันเวลาของการรับน้อง ได้ผ่านเข้ามาในชีวิต
พี่เก้งและพี่ติ๊กกำลังสนุกสนานเบิกบานกับกิจกรรมรับน้อง
แต่ก็เป็นบทเรียนอย่างดี เพราะปีนี้เองที่ได้สอนบทเรียนที่สำคัญให้พวกเค้า
หลังจากกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ จบลง
ก็จะมีพิธี รับขวัญน้อง
(คณะของผม มีกิจกรรมต่างๆตลอดทั้งปี จนบางครั้ง ผู้ปกครองที่บ้านก็บ่นให้ได้ยินว่า
กิจกรรมอะไรเป็นเดือนเป็นปีขนาดนี้ หรือ พูดเป็นแกมประชดว่า มหาลัยที่นี่ดีเนอะเรียนกันจนตี 2)
ซึ่งก็จะเป็นที่รู้กันอยู่ว่าใครอยากแสดงอะไรก็เอาเลย
ซึ่งพี่เก้ง ไม่แน่ใจว่าพี่ติ๊กด้วยมั้ย เล่นดนตรีในวันนั้น
แต่ภาพออกมาไม่ดีเลยการเล่นที่ล่มซะจนไม่น่าเรียกว่าคอนเสิร์ต
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเค้าขบคิดกันต่อว่า
จะต้องแก้ไขกันอย่างไรดีจนพี่ติ๊กได้ชักชวนพี่ตุ้ยซึ่งเป็นรูมเมท
มาร่วมเล่นดนตรีในวงด้วยแต่ก็ยังเหมือนมีอะไรที่มันขาดอยู่
ปีนั้นหลังจากกิจกรรมต่างๆหมดลงพวกเค้าก็เริ่มกลับเข้ามาสู่
เส้นทางสายดนตรีกันอย่างจริงจัง
จากที่เคยนั่งคุยกันที่ห้องสโมสรนิสิต
ก็มานั่งกันที่หน้าชมรมดนตรี
กิจกรรมต่างๆหรือวีรกรรมต่างๆก็เริ่มต้นสร้างเรื่องราว
ของพวกเค้าที่ซุ้มข่อยหน้าห้องชมรมนั่นเอง
แต่ไม่ว่าจะซ้อมกันกี่ครั้งหรือเล่นกันกี่ที มันก็ยังไม่ลงตัวซักที
แต่พวกเค้าก็พยายามที่จะเล่นให้มากขึ้น
เหมือนกับว่าเฝ้ามองหาโอกาสที่จะได้เล่นดนตรี
และสร้างวงให้เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม
29/11/2549
22.29 น.
นอกเรื่อง นอกราว "กาลครั้งหนึ่งแบบหนูๆ"
ที่บ้านของอ้วนจัง มีครอบครัว แฮมสเตอร์อยู่ ครอบครัวนึง
เมื่อนานมาแล้ว ก็มี พ่อหนู แม่หนู แล้วก็ลูกหนูน้อย
ซึ่งเหลือรอดมา ตัวเดียว พี่น้องตัวอื่นๆ ตายหมดแล้ว
เวลาผ่านไปไม่นาน แม่หนูที่รักก็จากไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
เหลือแต่พ่อหนู กับลูกหนูน้อย 2 ตัว
สำหรับลูกหนูน้อย ตั้งแต่เกิดขึ้นมาก็อยู่แต่ในกล่อง
บ้านของครอบครัวหนูจะเป็นกล่องพลาสติกแล้วก็ใส่ขี้เลื่อยเข้าไป
มีน้ำมีอาหารวางตามจุดต่างๆ
ซึ่งเคยคิดอยู่หลายครั้งเหมือนกันว่า ถ้ามีเวลา จะพาเจ้าลูกหนูน้อย
ออกมาเจอโลกกว้างภายนอกบ้าง
เผื่อโลกทัศน์แบบหนูๆที่อยู่แต่ในบ้านกล่องจะเปิดกว้าง
และมีความสุขมากขึ้น
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มีโอกาสซักที
และเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าลูกหนูน้อยก็จากโลกนี้ไป
ทำให้อ้วนจังหวนนึกถึงความคิด ที่คิดจะพามันออกไปนอกกล่อง
แต่เพราะว่าไม่ยอมลงมือทำซักทีก็เลยหมดโอกาส
ตอนนี้คงเหลือแต่พ่อหนูซึ่งก็อายุมากแล้ว
คาดว่ากำลังจะตายเช่นกัน(อายุขัยของหนูพวกนี้สั้นนัก)
แล้วก็เฝ้าแต่คิดไปว่า ตอนที่เจ้าลูกหนูน้อยอยู่ในกล่อง
มันจะมีความสุขมั้ย ถ้าเราปล่อยมันไปมีชีวิตข้างนอก
มันอาจมีความสุขมากกว่า รึป่าว
เวลามีคุณค่า
เวลาพิสูจน์อะไรหลายๆอย่าง
เวลานำมาซึ่งความสุข และ ทิ้ง ความเศร้าไว้
ไม่เคยคิดเหมือนกันว่า คำว่า พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว
มันจะน่ากลัวและแสนเศร้าได้ขนาดนี้
________________
โปรดติดตามตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น