Facebook

"This is a playground world"

กว่าจะมาเป็น Playground ตอนที่ 14

24/1/2550

9.34 น.

"เมโลดี้ ในงาน meeting#3" (ต่อ)

หลังจากไปงานมีทติ้งครั้งนี้ก็มีน้องๆให้ความสนใจบันทึก...เท่าเดิม!!
อิอิ มากขึ้นตะหากแถมยังมีน้อง add ไว้ใน msn อีกมากมาย
แล้วก็ยังมีเข้ามาคุยกันอีกจำนวนหนึ่งด้วย
ก็ต้องยกความดีทั้งหมดให้กับพี่ๆเพลย์กราวด์ ทีมงาน
และน้องๆที่น่ารักทุกคนนะคับ ที่มอบช่วงเวลาดีๆแบบนี้
ให้กับผู้ชายตัวเล็กๆ และดำๆ คนนี้
ขอบคุณนะคับ ขอบคุณและขอบคุณและขอบคุณทุกๆคน

(ความเดิม)หลังจากมาถึงงาน ออกไปซื้อข้าวอีซี่โกและหนีไปด้านนอก
ซึ่งพี่ตุ้ยเองก็ตามมาทีหลังก็มานั่งคุยกันเรื่องเดิมคือทำไรกันดี
แล้วก็ให้บังเอิญมีน้องๆมาหาพี่ตุ้ยผมและพี่เก้งก็เลยปลีกตัวออกมา
โดยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะทำอะไรกันดี
เดินร่อนไปทั่วงานและเริ่มเห็นน้องๆมากันเยอะละ
ก็เลยเริ่มจัดโต๊ะลงทะเบียนซึ่งบรรยากาศอึมครึมเป็นพิเศษ
เพราะส่วนมากโต๊ะลงทะเบียนนี้จะมีแต่สาวๆหน้าตาน่ารักมาบริการ
แต่วันนี้กลับกลายเป็นว่ามีเงาวิญญาณนั่งอยู่(ก็คือผมนั่นเอง 55)
แต่ก็ดีที่ยังมีพี่ตุ้ยกับพี่เก้งอยู่ด้วยนะไม่งั้นก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกัน
เริ่มลงทะเบียน และติดเบอร์ของขวัญไปเรื่อยๆ
งานก็เริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆเช่นกันไม่นานนักพี่ติ๊ก พี่ตุล พี่น๊อตก็มาถึง
ตอนนี้ก็เลยเบี่ยงเบนความสนใจไปได้
ผมกับพี่เก้งก็เลยได้จังหวะวางแผนงานกันต่อแล้วก็คิดออกว่าทำไรดี
แล้วพวกเราก็รอเวลาและรอให้แน่ใจว่าทุกคนมาพร้อมกันแล้ว
วันนี้มีน้องๆ มากันราวๆ 30 คน เป็นกลุ่มเล็กๆที่ดูอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง
จนผมและพี่เก้งตัดสินใจว่าควรจะเริ่มงานกันดีกว่าก่อนมันจะแกล่ว

เดี๋ยวมาต่อจ้า... 


25/1/2550

16.32 น.

"เมโลดี้ ในงาน meeting#3" (ต่อ)

(ความเดิม) น้องๆเข้ามาในงาน มากขึ้นๆแล้วผมและพี่เก้ง
ก็เลยเริ่มเข้าสู่งานมีตติ้งนี้
กล่าวสวัสดีกับทุกคนแล้วก็เลยเชิญสมาชิกเพลย์กราวด์ทุกคน
ออกมายังเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ด้านหน้า วันนี้โชคดีมาก
เพราะสมาชิกทั้งเก่าทั้งใหม่ของวงมารวมตัวกันหมด
ไม่ว่าจะเป็น พี่น๊อต มือกลองอัจฉริยะ
หรือจะเป็น พี่ชาติ ที่ได้รับฉายาหัตเทวะ(ตั้งให้เองแหละ)
แม้แต่คนที่หน้าตาดีที่สุดในวงอย่างพี่อ้วนก็มากับเค้าด้วย
(555 ขอเถอะนะมุขนี้ไม่ใช่จะได้เล่นกันบ่อยๆ)
หลายคนที่ไม่ได้ไปงานคงสงสัยว่าพี่อ้วนเป็นใคร
พี่อ้วนนั้นเค้ามีบ้าน 1 หลัง ที่นา ไร่ ควาย ตัว
นอกนั้นถูกเก็บไว้เป็นความลับบริษัท อิอิ
พี่ติ๊ก ป๋าตุ้ย พี่ตุล พี่เก้ง มากันหมด
โอ้โห เหมือนนัดรวมญาติเช็งเม้งก็ไม่ปาน
ว่าแล้วก็แนะนำตัวกันไปทีละคน สองคน จนครบ
(ไม่สามารถเล่าได้ว่าแนะนำว่าไง เพราะตัวผมเองตื่นเต้นมาก)
ซึ่งปกติผมเองเป็นคนที่พูดติดอ่างหน่อยๆอยู่เป็นทุนเดิม
มาเจองานนี้โอย ลมจะจับ พูดตะกุกตะกักซะยิ่งกว่าเดิมอีก
แต่ด้วยรัศมีศิลปินของพวกพี่ๆเค้าก็เลยทำให้พอหาทางเอาตัวรอดได้
ต้องขอบอกว่าบรรยากาศเหมือนสนามรบเลยว่างั้น
แต่ละท่านแต่ละคน ขนอาวุธ (มุขสด)มาเป็นกระบุงโกย
ยิงกันหลบไม่ทันน้องๆตายในหน้าที่ไปหลายคนทีเดียว
เรียกว่าฮาจนต้องหลบไปนวดแก้มอยู่บ่อยๆ
หลังจากแนะนำตัวและพูดคุยกันพอสมควรแล้ว ให้น่าเสียดาย
ว่าพี่น๊อตต้องรีบกลับไปก่อน ทิ้งไว้แต่... ไม่อธิบายดีกว่า

ช่วงต่อไปก็เลยเริ่มขึ้นนั่นก็คือการตอบคำถาม เยๆ
ก็คือให้น้องๆขึ้นมาถามคำถามที่อยากรู้จากพวกพี่ๆนั่นล่ะ
ส่วนตัวผมเองประทับใจคำถามเรื่อง น้อง ย. ของพี่ตุ้ยมาก
และก็ประทับใจกับการที่พี่ๆแต่ละคนจะมีเพลงที่ไม่ใช่เพลงในวง
ซึ่งเป็นเพลงของคนอื่น
ที่สำคัญงานนี้ชอบเพลงไหนร้องเพลงนั้นค้าบ
ใครไม่เคยเห็นพี่คนไหนร้องเพลงล่ะก็วันนี้แหละเด็ดสุด

จนกระทั่งช่วงที่สาม ช่วง จตุรหม้อรีเทิร์น
ก็เป็นช่วงที่พี่ๆเค้าจะได้เล่าให้ฟังถึงคอนเสิร์ตแรกของเค้า
พร้อมกับเล่นเพลงต่างๆที่ได้เคยเล่นไปในครั้งนั้นให้ได้ฟังกัน
เล่นเสร็จร้องจบ สาหร่ายแทบจะพันคอพี่ๆเค้าเลยว่างั้น
ถือเป็นช่วงที่ได้พักฟังเพลงสบายๆไป

ช่วงที่ 4 จับของรางวัล
เป็นช่วงที่ทำให้ได้รู้ว่าแต่ละคนแท้จริงเป็นคนแบบไหนกันแน่ 555
โดยเฉพาะป๋าตุ้ย พึ่งรู้วันนี้เองว่าป๋าตุ้ยโลภมาก
จับรางวัล รอบแหนะคับพี่น้องคับ
และเป็นครั้งแรกที่ได้จับรางวัลแบบสนุกสุดๆ
อิอิ ผมได้รางวัลเป็นเพคเกจ รูป+กรอบรูปเพลย์กราวด์ด้วยล่ะ

จับรางวัลเสร็จแล้วก็เข้าสู่ช่วงแฟนพันแท้เพลย์กราวด์
ของรางวัลแต่ละชิ้นสุดยอดมากๆครับขอบอก
ยกตัวอย่าง เสื้อเน่า ของพี่ๆเค้าเป็นต้น 555
จริงๆแล้วก็อยากได้นะ แต่ไม่มีโอกาสหุหุ

สุดท้ายพี่ๆเค้าก็กล่าวถึงความในใจของแต่ละคนทราบซึ้งจริงๆ
ผมเองก็คงจะเก็บเอาช่วงเวลาแบบนี้ไว้ตลอดไป
และจะพยายามแบ่งปันบรรยากาศดีๆแบบนี้ให้เท่าที่จะสามารถทำได้

และเข้าสู่ช่วงสุดท้ายจริงๆนั่นคือถ่ายรูปที่ระลึกร่วมกัน
ช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาสบายๆ อยากคุยอยากถ่ายรูป
ก็เอาเลย เต็มที่ๆ

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
การได้มาพบกันครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
ถึงแม้บางคนอาจจะได้พบเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก
แต่ก็เหมือนมีบางสิ่งที่ถ่ายทอดมาสู่กันได้ เป็นความทรงจำที่แสนดี
การ์ตูนเรื่องหนึ่งสอนผมว่า ถึงแม้เราจะแค่เดินสวนกันในตลาด
มันก็เป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์แล้ว เพราะว่าโลกใบนี้มีคนเป็นล้านๆ
เหมือนกับดวงดาวบนฟากฟ้า ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะได้เจอกัน
แต่เราก็ยังเจอกัน ไม่ใช่แค่สวนกัน แต่ได้สนุกสนานร่วมกัน
ได้มีวันเวลาที่ดีร่วมกัน

ขอบคุณเพลย์กราวด์ที่จัดงานนี้ขึ้นมา
ขอบคุณเพื่อนๆน้องๆทุกท่านที่ร่วมมีความสุขด้วยกัน
ขอบคุณทีมงานที่สละเวลาอันมีค่ามาช่วยงาน
ขอบคุณตัวเองที่สมารถเรียบเรียงบรรยากาศในงานได้
ถึงจะไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
ที่จะลืมเสียมิได้ก็คือบทเพลงเพราะๆของเพลย์กราวด์
ที่เป็นสื่อนำพาเรามาเจอกัน
และก็อย่าได้น้อยใจเลยหากตัวผมนี้จะลืมเอ่ยชื่อเพื่อนๆน้องๆท่านใด
เพราะทุกคนนั้นเป็นดวงดาวทั้งแสนล้านดวงของผมเสมอ
_______________

โปรดติดตามตอนต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น