16/3/2550
11.17 น.
"เกาะมหัศจรรย์3"
ล่องลอยอยู่กลางทะเลสีคราม สีเขียว เอ...หรือ สีน้ำเงิน
จะสีอะไรก็ช่าง ภาพของฟ้าที่ตัดกับแผ่นน้ำด้านหน้าและด้านหลัง
เสียงลมที่พัดมาด้วยความเร็วของลมและเรือ ดังแผ่วๆ
แสงแดดร้อนแรงเผาผลาญผิวหน้า ให้เกรียมและคล้ำขึ้น
จนต้องหาผ้าหรือหมวกมาปิดบังความร้อนนั้น
เกรียวคลื่นปะทะกับตัวเรือส่งเสียง ซ่าๆ อยู่เป็นระยะ
ผมเองยืนรับลมทะเลและแสงแดดพร้อมกับผ้าคลุมและหมวก
ปล่อยจิตใจล่องลอยไปพร้อมกับเรือ นานจนแทบจะลืมตัวตน
เราก็สังเกตเห็นแผ่นดิน เมื่อจินตนาการภาพตัวเองดั่งโจรสลัด
การเจอแผ่นดินทำให้หัวใจของเราพองโต
และคิดไปถึงสิ่งต่างๆที่จะพบเจออยู่บนเกาะ
แผ่นดินแห่งแรกที่เราเจอด้วยภูมิทัศน์ที่แบนราบ
จึงถูกขนานนามว่าเกาะกระดาษ
สอบถามพี่ๆทหารบนเรือก็ได้ความว่า
เกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัวของใครบางคน
โอ้โห ต้องมีเงินเท่าไรนะถึงจะมีเกาะส่วนตัวแบบนี้ได้
เราแล่นเรือผ่านที่ราบกลางทะเลมาได้พักใหญ่
ก็มาถึงแผ่นดินอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรา
เมื่อเข้าไปใกล้ฝั่งเรื่อยๆเราก็มองเห็นสะพานท่าเรือที่ทอดตัว
ยาวจากฝั่งเข้ามาในทะเล
สะพานนี้ทำไว้เพื่อให้เรือได้เข้าเทียบและส่งพวกเราลงสู่เกาะ
เรือเทียบท่า สัมภาระต่างๆถูกขนลงบนท่าเรือ
พี่ผู้ดูแลเกาะให้คนงานซึ่งก็เป็นทหารช่วยเราขนสัมภาระ
เข้าไปยังที่พักเป็นรีสอร์ท ที่สร้างอยู่ริมทะเล
ที่พักส่วนตัว ชายหาดของเรา ที่ดำน้ำดูปะการังส่วนตัว
ทุกอย่างที่หยิบจับหรือมองเห็นได้
สามารถเดิม Verb to ส่วนตัว ได้หมด
หลังจากเข้าสู่ที่พักยังไม่ทันจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
เราก็เริ่มสังเกตเห็นเรือเล็กกำลังแล่นมาหาเรา
คิดในใจสงสัยจะเป็นชาวบ้านแถวนี้
เมื่อนาวาน้อยลำนี้เข้ามาถึง ก็ทำให้คลายสงสัย
มันคืออาหารทะเล มื้อกลางวันส่วนตัว
ทันสมัยกว่าพิซซ่าฮัท ก็ตรงที่ เดลิเวอรี่ด้วยเรือน้อยนี่เอง
เป็นมื้อกลางวันที่อร่อยมากๆ เรียกว่า อร่อยจนอิ่มแล้วอิ่มอีก
ถ้ามี 4 กระเพาะแบบวัวได้ คงจะดีไม่น้อย
21/3/2550
9.28 น.
"พัทยา"
ก่อนหน้านี้มีเสียงชักชวนทั้งจากเพื่อนๆและน้องๆให้ไปพัทยา
เพราะเพลย์กราวด์มีเล่นวันเสาร์ตอนค่ำ(วงสุดท้าย อีกแล้ว)
แต่วันเสาร์ผมทำงานนี่นา นั่งทำงานไปคิดในใจว่าไปดีไหม
จนไม่ได้ทำงานเพราะมัวแต่คิดว่าจะไปดีมั้ย
คิดๆๆๆๆจนเวลาล่วงเลยมาถึงประมาณ 6 โมงเย็นวันเสารที่ 17
ก็เลยเลิกใช้เหตุผล ตัดสินใจไปเก็บเสื้อผ้าหนีตามสาวๆ เอ๊ย...
เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ข้อดีของการเดินทางบ่อยๆ
ก็คือทำให้จัดกระเป๋าได้เร็ว คิดว่าใช้เวลาแค่ 10 นาที
ผมก็พร้อมออกเดินทาง จากนครปฐมถึงกทม ใช้เวลา 30 นาที
มาถึงปิ่นเกล้า หลังจากหาอะไรรองท้องเสร็จเรียบร้อย
ก็โบกแท็กซี่ไปเอกมัยเลย จริงๆที่ปิ่นเกล้าจะมีรถตู้แต่พอดีวันนั้นหมด
จากเอกมัยนั่งรถทัวร์ ป.2 ไปพัทยาใช้เวลาเบ็ดเสร็จ 2 ชั่วโมง
ถือเป็นการเดินทางไปพัทยาโดยรถประจำทางที่เร็วมากคับ
บนรถเปิดโปงลางสะออน ก็เลยไม่ได้หลับมาตลอดทาง
มาถึงพัทยาด้วยความมั่วส่วนตัวก็เลยลงที่พัทยาใต้
แล้วนี่จะลงพัทยาใต้ทำไมเนี่ย มึนจริงเลยคนเรา
คำนวณดูสนามกีฬามันห่างจากพัทยาใต้ 6 กิโล เดินไปดีมั้ยน้า
มองดูนาฬิกานี่มัน 5 ทุ่มแล้วนี่นาไม่รู้เล่นเสร็จยังก็เลย
โบกพี่วิน ไปส่งที่สนามกีฬาเสียไป 80 ด้วยความสะเหร่อส่วนตัว
ไปถึงกำลังเล่นเพลงกังฟู ยืนฟังจนจบแล้วก็ขี้เกียจฝ่าฝูงชนเข้าไป
เลยออกมายืนรอด้านนอก ก็บังเอิญเจอพี่เคียงมอ
ที่มาพร้อมเพื่อนๆ ถามไปถามมาพี่เคียงมอบอกว่า
นัดกับพีจีไว้แล้วกลับไปอาบน้ำรอได้เลย
ก็เลยได้โอกาศติดรถพี่เค้าไปด้วย
ยืนรอรถอยู่นานก็มีน้องสาวขาวอวบสองคนเข้ามาทัก
น้องพลอยกับน้องทรัพย์นั่นเอง เห็นว่าเอาเค้กมาให้พี่ติ๊ก
คุยกันได้ซักพักรถตู้ของพี่เคียงมอก็มาพอดี
ต้องขอโทษแม่หนูทั้งสองด้วยนะคับที่ไม่ได้ให้ติดรถไปด้วย
เพราะพี่ก็อาศัยเค้าเหมือนกัน 555 จริงๆถ้าเจอกันเร็วกว่านี้
ก็คงได้เดินคุยกันไปเรื่อยๆอ่ะเนอะ
ไปนั่งเล่นที่โรงแรมพี่เคียงมอ
ตอนแรกกะว่าจะขอแชร์ค่าห้องด้วย
แต่ไม่เอาดีกว่า เพราะว่า เค้ามากันเป็นคู่ๆ ไม่อยากดูหนังสด
แล้วเอาไงดีล่ะห้องส่วนใหญ่ก็เต็มหมดเล้ว เฮ้อ...แย่จัง
ซักพักน้องหวานก็โทรมา เอ...หรือจะไปนอนกับน้องหวาน
อย่าคิดลึกนะคับ น้องเค้ามากันหลายคน
มีน้องเจ น้องหวาน น้องต้อง น้องพลอย น้องทรัพย์ โอยมากมาย
เป็นดังนี้เราก็เลยไม่รบกวนดีกว่า แต่เอาไงดีกับชีวิตดีเนี่ย
อ่อแต่ก่อนหน้านั้นพี่เก้งโทรมาว่าจะไปนั่งเล่นที่หาดกัน
เอาวะไปนั่งเล่นหาดค่าเวลาก่อนก็ดีเผื่อจะมีใครมีห้องว่าง
(จริงๆห้องว่างมีเยอะแหละคับแต่เหงาไงอยากอยู่กับคนเยอะๆ)
ก็เลยชวนพี่เคียงมอไปนั่งหาด ว่าแล้วก็ออกเดินทางอีกแล้ว
มาถึงหาดก็ก็เจอกับพีจีทั้งวง นั่งร่ำสุราเคล้าเสียงเพลงสนุกสนาน
เราก็เลยแอบเนียนไปนั่งเล่นกับเค้าด้วย
ตรงนี้มีน้องๆอีกกลุ่มนึง มีน้องอัน น้องเก่ง น้องฝ้าย น้องปิ๊ก
จำได้ประมาณนี้ล่ะคับ ร้องเพลงริมหาดกันยันเช้า แง้ไม่ได้นอน
หลังจากแยกกับน้องๆได้พี่เก้งก็พาไปกิน breakfast
แล้วก็มานั่งคิดว่าง่วงขนาดนี้ไปนอนที่ไหนดี
เพราะพี่เก้งกับผมก็ไม่มีที่นอนเหมือนกัน 555
และก็เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงคือพอกินอิ่มแล้วยิ่งง่วงอ่ะ
จำเป็นต้องไปหาที่นอนจริงๆ ก็เลยดินขึ้นไปมั่วๆเข้าห้องพี่ตุ้ย
ซึ่งจะมีพี่ตุ้ยกับ น้อง แล้วก็พี่ชาตินอนในห้องนี้
ทีแรกกะว่าจะเข้ามาอาบน้ำล้างหน้าเฉยๆ แต่แอบเห็นโซฟาว่างอยู่
เลยชวนพี่เก้งนอนกันซักพักจะได้มีแรงไปต่อ
ว่าแล้วก็ผลอยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
จนพี่ชาติตื่นก็เลยสละที่นอนให้ซะงั้น
นอนหลับไปซักพักไม่ค่อยสนิทดีเพราะแฟนป๋าโทรมากวนไม่ได้ขาด
แล้วเจ้าตัวไม่ยอมรับโทรศัพท์อีกตะหาก
ก็เลยตื่นมาอาบน้ำอีกรอบ เพราะเห็นว่าต้องออกก่อนเที่ยง
ด้วยความร่ำรวยและง่วงเราก็เลยบอกว่านอนต่อก็ได้เด๋วจ่ายเอง
และแล้วเงินก็ซื้อทุกอย่างไม่ได้
เพราะพี่ตุ้ยบอกไม่ใช่เรื่องเงินหรอกเพราะพี่อีกวงที่เล่นวันนี้
เค้าจะเข้ามาใช้ห้องไง เราก็เลยอ๋อ เข้าใจละก็เลยรีบเก็บของ
แล้วก็รีบออกจากห้องลงไปหาอะไรทานกันด้านล่าง
นั่งคุยกับพี่พีจีแล้วก็ให้หวั่นๆเพราะโปรแกรมพี่แกเยอะจริงๆ
แล้วยิ่งไม่ได้นอนแบบนี้ ลำบากแน่เลยเรา
______________________
โปรดติดตามตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น