26/10/2549
21.19 น.
"ต้นเรื่อง"
อยู่ดีๆก็คิดที่อยากจะเขียนบันทึกนี้ขึ้นมาเพราะอะไรๆมันก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาแต่ความทรงจำไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปความคิดนี้แว้บเข้ามาในหัวของผมขณะที่ผมไปชมเพลย์กราวน์ในงานเดอะเต็นต์ (สมัยนั้นอยุ่ในสวนลุมไนท์บลาซ่า) แล้วมันก็ทำให้ความทรงจำในครั้งอดีตหวนกลับมาอีกครั้ง
ขณะนี้ วณิพกน้อย นาม อ้วนจัง ก็แค่ จุดตะเกียงและขับกล่อมนิทานก่อนนอนให้แก่ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาได้รับฟังเพื่อความบันเทิงและนอนหลับไหลไปในราตรีนี้อย่างมีความสุข
มันเริ่มต้นขึ้นกับบทเพลง "ไม่มีอีกแล้ว"ของพี่ นภ พรชำนิ วง P.O.P.ผู้ชายท่าทางตลกคนนั้นร้องเพลงนี้ขณะที่วงดนตรีเฉพาะกิจของเค้าเล่นดนตรีกันอยู่บนสนามบาสผมเองก็จำไม่ได้ว่ามันเป็นเทศกาลอะไรรู้แต่ว่ามีซุ้มของกินเต็มไปหมดแม่ค้าแม่ขาย ถูกใจกับลีลาของเค้าเหลือเกินจนหาของติดไม้ติดมือเป็นรางวัลสำหรับบทเพลงเพราะๆ นั้นมันอาจไม่ใช่จุดเริ่มต้นของเค้า หรือ ติ๊กแต่มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้มองดูพวกเค้า
27/10/2549
21.18 น.
"สายลมแห่งทิศตะวันออก"
สุดสัปดาห์ของใครหลายๆคนแต่บางคนก็ยังง่วนอยู่กับงาน
สีสันของยามค่ำคืนแตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่
และผู้เสพความงดงามของค่ำคืนก็แตกต่างกันไปตามรสนิยม
วันที่ 16 มกราคม
สำหรับคณะศึกษาฯ ถือเป็นวันสำคัญวันนึง เรียกว่าวันครู
พวกเราจัดงานกันขึ้นที่อาคารเรียนรวม (มหาวิทยาลัยบูรพา)
เป็นงานที่ค่อนข้างจะมีพิธี
มีอาจารย์มาร่วมกิจกรรมนี้ก็หลายท่าน
งานก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย
จนกระทั่ง...
มาถึงการแสดงคั่นเวลา
ผมก็จำไม่ค่อยได้ว่าทำไมพวกเค้าถึงไปยืนอยู่ตรงนั้น
รู้แต่ว่า วงดนตรีของพี่ๆ ยังไม่พร้อมที่จะเล่น
ดังนั้นเด็กปี 1 ก็ได้ขึ้นไปขอแสดงความสามารถคั่นเวลาแทน
"ก่อนท้องฟ้าจะสดใส ก่อนความอบอุ่นของไอแดด
ก่อนดอกไม้ จะผลิบาน ก่อนความฝันอันแสนหวาน..."
อีกครั้งกับ 1 เพลง สำหรับวงดนตรีเฉพาะกิจ
บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นความประทับใจ
จนเพื่อนๆปี 1 แทบจะลืมวงของพี่ๆไปเลย
มันก็เป็นจุดดำเนินไปของสิ่งต่างๆ
ช่วงเวลานี้ช่างแปลกประหลาด
มันรวดเร็วเหมือนกับแค่กระพริบตา
แต่ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอาย สัมผัสได้ถึงความตื่นเต้น
เหมือนสายลมทะเลที่ผัดให้ใบมะพร้าวแกว่งไกว
เส้นผมปลิวสะบัด และมันก็กำลังพัดหอบเอาความฝันของ
เด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่งให้ล่องลอยไปทั่วแผ่นน้ำและผืนฟ้า
--------------------------
โปรดติดตามตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น